Twenty-two

ในขณะที่ด้านล่างกำลังง่วนอยู่กับการลงโทษคนโกหก ที่ห้องนอนชั้นสองที่มืดสลัวก็กำลังมีกิจกรรมที่กำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและไม่มีหยุดพัก

 

เดียร์ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เสียงร้องของตัวเองจะหลุดความสุขใจออกมาบ้างหรือเปล่า แต่เมื่อเห็นว่าสิทธิ์นั้นมัวแต่สนใจอยู่กับเรื่องอื่น จึงทำให้เด็กหนุ่มเลิกกังวล และตั้งใจกับสิ่งที่ควรจดจ่อ

 

ร่างบางกระตุกขึ้นเป็นจังหวะเมื่อโดนเร่งเร้าเข้าที่ส่วนอ่อนไหว แม้จะทำเป็นขืนหนี ก็ไม่อาจพ้นจากสิ่งที่คอยคุกคามเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน จนต้องปล่อยให้อารมณ์ที่สู้กักเก็บไว้ไหลรินออกมา

 

สิทธิ์สะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้าเรียวที่ชื้นเหงื่อออกอาการเหมือนคนเพิ่งได้สติ ชายหนุ่มมุ่นคิ้วมองคนตรงหน้าที่มีทีท่าทรมานปนอับอาย ผิวเนียนขาวนั้นชอกช้ำไปด้วยรอยจ้ำแดง ดวงตากลมฉ่ำเยิ้มไปด้วยหยาดน้ำใส เสียงร้องที่ดังครางอย่างอ่อนแรงเพราะร้องมานานจนแทบจะไม่เหลือพลังจะต้าน

 

“เป็นไง ไม่โวยวายอีกหรือไง” ไม่รู้ผีห่าซาตานที่ไหนดลใจให้พูด ทั้งที่ลึกๆแอบนึกสงสารอยู่แท้ๆ แต่พอเห็นใบหน้าปานจะขาดใจนี่ กลับรู้สึกสะใจและอยากเยาะเย้ยขึ้นมาเสียได้

 

แล้วมีหรือที่คนกำลังมีความสุขจะปล่อยให้โอกาสหลุดลอย

 

“เลวที่สุด” เสียงหวานที่สั่นระริกดังแผ่วขึ้นท่ามกลางความมืดสลัว ใบหน้านวลที่ขึ้นสีนั้นอาบไปด้วยความขึ้งแค้นอย่างแสนสาหัส “ทำเป็นแต่เรื่องสกปรกโสโครก”

 

เขากะว่าถ้าอีกฝ่ายร้องไห้กระจองอแงอ้อนขอกันดีๆ ก็จะปล่อยแล้วแท้ๆ แต่ถ้าจะวอนหาเรื่องไม่เลิกแบบนี้ล่ะก็ จัดใส่อีกสักสามสี่รอบท่าจะดี

 

เดียร์เหลือกตามองด้วยความตื่นเต้นว่าพ่อหมียักษ์จะจัดมหกรรมความบันเทิงใดให้อีก ก่อนหน้านี้ก็กรุณาฉุดกระชากลากขึ้นเตียง และเข้าข่มเหงกันแบบไม่มีการถามความสมัครใจ จากนั้นก็คอยกรอกคำพูดโหดร้ายใส่หูให้ฟังเป็นระยะจนอิ่มหนำ เล่นเอาเขาสุขล้นจนจะหมดแรงอยู่แล้ว

 

“จะทำอะไรน่ะ” ผมจะได้เตรียมแรงเตรียมใจรอรับมือ

 

“ไม่ต้องหนีหรอกน่า รับรองว่าเธอต้องชอบแน่” สิทธิ์ชักขาที่พยายามกระถดหนีลงมาแล้วใช้มือหนาลูบขึ้นตั้งแต่หน้าท้องราบจนถึงลำคอเรียวบาง นิ้วเรียวค่อยๆบีบรัดทีละน้อย จนคนตรงหน้าออกอาการอึดอัด

 

กว่าที่เด็กหนุ่มจะออกอาการทรมานเพราะขาดอากาศและเจ็บปวดจากแรงบีบก็นานเสียจนสิทธิ์กลัวว่าเดียร์จะตายไปเสียแล้ว มือเล็กพยายามปัดป่ายอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงเสียดแทรกผ่านลำคออย่างยากลำบาก ดวงตากลมเบิกกว้างเสียจนน่ากลัวว่าจะหลุดออกจากเบ้า

 

สิทธิ์รีบปล่อยมืออย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเป็นอะไรไปเสียก่อน เขาเลื่อนมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความทรมานของอีกฝ่าย และยิ้มบาง

 

มือหนาเลื่อนลงมาขยี้จุดไวสัมผัสสีสวย และไล้โลมอย่างหิวกระหาย แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะดื่มด่ำไปเสียตั้งมาก หากแต่กลับไม่นึกพอเลยสักนิด แถมยิ่งกระทำย่ำยีไปมากเท่าไหร่ กลับยิ่งต้องการมากขึ้นจนแทบหยุดไม่อยู่

 

อยากเห็นอีก อยากทำอีก…

 

“อ๊า” เสียงหวานแผดลั่นอย่างสุขใจพร้อมกับปล่อยให้อารมณ์ปะทุออกมาอีกครั้งอย่างไม่นึกปกปิด มือบางเอื้อมลงไปอย่างเผลอตัว หวังจะปลดปล่อยความสุขนี้ออกให้สมใจอยาก แต่กลับโดนขัดเสียได้

 

เด็กหนุ่มเผลอตวัดสายตาขึ้นมองสิทธิ์อย่างลืมตัว อีกฝ่ายเพียงแต่ยกยิ้มและเอียงคอมองกลับมาอย่างไม่หยี่ระ เล่นเอารู้สึกเจ็บใจจี๊ดขึ้นเพราะไม่อาจสู้อีกฝ่ายได้

 

อึก….อารมณ์ค้างแบบนี้ก็ทรมานไปอีกแบบแฮะ โอ้ว เพิ่งจะรู้ว่ายังมีหนทางการทรมานตนแบบไม่ต้องรุนแรงจนเลือดตกยางออกแบบนี้ด้วย

 

“ฉันรู้ว่าคนร่านกระสันเซ็กแบบเธอคงไม่พอใจแค่นี้หรอก ใช่ไหม” แหม…อยากจะขัดเหลือเกินว่าไอ้ที่ชอบจริงๆน่ะ เป็นอย่างอื่น แต่เอาเถอะ โดนมองอย่างดูถูกแบบนี้มันก็สุขใจจนไม่อยากขัดเลยจริงๆ “ดูสิ ขนาดฉันประเคนให้ตั้งไม่รู้กี่รอบ ยังอยากจะลงมือด้วยตัวเองอีกนะ”

 

“เพราะคุณมันไม่มีน้ำยาจนผมต้องลงมือเองต่างหาก” ถนัดนักแล ไอ้เรื่องยั่วโมโหชาวบ้านแบบตรงจุดเนี่ย “ผมว่าถ้าเป็นคุณพี่ฤทธิ์ คงจะถึงใจผมมากกว่าอีกนะ”

 

ก็ไม่อยากจะอ้างชื่อคุณพี่เขาหรอก แต่ทำแบบนี้มันกระตุ้นอารมณ์ยัวะของคุณสิทธิ์มากกว่าแน่ๆ คงไม่มีเจ้านายที่ไหนจะปลื้มที่ตัวเองอ่อนด้อยกว่าลูกน้องหรอก โดยเฉพาะด้านนี้

 

ได้ผลดีแบบไม่ต้องรอลุ้น จากที่ทำท่าว่าจะเลิกเพราะเริ่มล้าที่ตะลุยมาเกือบสามชั่วโมงบวกกับเริ่มเห็นใจเดียร์ เรี่ยวแรงและความเหี้ยมมันก็เพิ่มขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ และเจ้าตัวก็อยากจะปลดปล่อยแบบให้หมดก๊อกเสียจริงๆ

 

“โอ๊ย นี่คุณจะทำอะไรน่ะ” เสียงหวานร้องลั่นเมื่อโดนอีกฝ่ายกดร่างตนให้นอนคว่ำ แล้วดึงมือทั้งสองไพล่หลังเอาไว้ เด็กหนุ่มได้ยินเสียงคล้ายกับสิทธิ์กำลังรื้อหาอุปกรณ์บางอย่างจากโต๊ะข้างเตียง ผิวสัมผัสที่ทาบเข้ารัดข้อมือทั้งสองข้างบอกให้เดียร์รู้ว่าสิ่งที่พันธนาการให้แขนทั้งสองแนบติดกันคือสายรัดข้อมือที่ทำจากหนังมันวาว ซึ่งทำเอาเด็กหนุ่มรู้สึกดีถึงแรงเสียดสีของมันกับผิวกายของตน สายหนังตรึงรัดเขาไว้จนแน่น เล่นเอาความรวดร้าวแล่นสะท้านไปทั้งตัว

 

“แทนที่จะบอกว่าฉันไม่มีน้ำยา น่าจะเป็นเพราะเธอร่านจนแค่ฉันคงเดียวคงไม่พอมากกว่าล่ะมั้ง”

 

เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีบางสิ่งล่วงล้ำเข้าร่าง แต่ขนาดและความอึดอัดที่เบาบางบอกให้รู้ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งจะระบายความใคร่ไปกับเขาก่อนหน้า และจากการขยับที่เคลื่อนไหวอย่างไม่เป็นระบบ ทำให้เขาเดาว่าน่าจะเป็นนิ้วของสิทธิ์

 

“อะไรกัน ขนาดทำไปตั้งนาน แต่ยังคับไม่เปลี่ยนเลยนะ แบบนี้หรือเปล่าที่ทำเอาคนอื่นมาหลงเธอนักต่อนัก” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างนุ่มนวลแต่กลับชวนให้รู้สึกระคายหู สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ฟังในตอนนี้เป็นอย่างยิ่ง “ดูสิ ตอดไม่หยุดเลยนะ คงอยากมากล่ะสิ อย่างเธอ แค่สามสี่รอบคงไม่พอหรอกเนอะ”

 

แหม อันที่จริงผมทำเรื่องพรรค์นี้แบบสำเร็จลุล่วงก็กับคุณเป็นคนแรกเลยนะ คิดแล้วยังเขินและปลาบปลื้มไม่หายเลย~

 

“อึก…อย่าพูดอะไรบ้าๆแบบนั้นนะ ผม…ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นสัก…หน่อย” เสียงหวานดังขาดห้วงเป็นระยะเนื่องจากทนความหวาบหวามที่รุกล้ำอย่างดุเดือดไม่ไหว ยิ่งนึกถึงคำประชดส่อเสียดไปคอยพร่ำกรอกใส่หูอยู่ตลอดกิจ ทำเอาอารมณ์ที่เพิ่งดับลงเริ่มปะทุขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนเขาไม่อาจทนได้อีกต่อไป

 

แต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะยอม

 

ความรู้สึกที่กำลังจะปะทุดับวูบลงเมื่ออีกฝ่ายหยุดมือ ใบหน้าหวานพยายามหันมองด้วยความสงสัยปนหงุดหงิด และสิ่งที่เห็นเล่นเอาเขาสะท้าน

 

ใบหน้าดูถูกเหยียดหยามที่อยู่ในระดับสูงกว่านั้น อีกทั้งดวงตาที่ฉายแววเยาะเย้ยถากถางโดยไม่ต้องใช้น้ำเสียง ช่างสร้างความสุขให้แก่เด็กหนุ่มจนล้นเปี่ยม เล่นเอาเดียร์หยุดหายใจไปหลายวินาทีเลยทีเดียว มันเป็นสีหน้าที่ไม่ว่าจะมองเมื่อไหร่ก็ชวนให้หลงไม่รู้ลืม

 

แต่แน่นอนว่าคนมองในตอนนี้เห็นเพียงแค่ว่า เดียร์ตกใจกับสีหน้าเหนือกว่า และอึ้งกับความโหดร้ายใจดำของเขา…แค่นั้น…

 

“ทำไม อารมณ์ค้างหรือ อยากได้ต่อหรือไง” สิทธิ์ก็แค่อยากจะพูดเพื่อข่มเหงอีกฝ่าย ไม่ได้เดาใจคนที่นอนคว่ำอยู่ตรงหน้าได้สักนิด แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้เดียร์หน้าถอดสี แล้วดูเหมือนอายและช็อกที่โดนคนที่เกลียดเดาใจได้ “ไหนลองขอดีๆสิ แล้วฉันจะทำให้”

 

“อย่ามาพูดบ้าๆนะ ใครจะ…ขอกัน” เสียงหวานกรีดร้องสุดเสียง หัวเริ่มหมุนเพราะโดนความสุขรุมเร้า “พอซักที…”

 

เพราะถ้ายังไม่พอ บางทีผมอาจจะตัดใจไม่ลงแล้ววางแผนลากคุณเข้าเส้นทางสายเอสอย่างไม่มีวันหวนกลับเลยนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน…อ๊า…คุณจะเก่งเรื่องทรมานคนเกินไปแล้วนะ~~

 

“อะไร อย่าปากแข็งไปหน่อยเลย ปล่อยให้แข็งแค่ตรงนี้ก็พอ” สิทธิ์เยาะพลางเลื่อนมือลงจับแก่นกลางของอีกฝ่าย และด้วยความหมั่นไส้กับขนาด เลยแกล้งบีบเสียแรงจนผู้เป็นเจ้าของร้องเสียงหลง “ดูสิ ออกจะอยากทำต่อขนาดนี้ จะมาพูดว่าพอได้ยังไงกัน”

 

แหม่ ถ้าไม่ติดว่ากลัวคุณรู้ความจริง ผมก็อยากจะครางเสียงกระเส่าบอกความในใจของผมให้คุณฟังจัง

 

เดียร์ก็ทำได้เพียงแค่นิ่งเงียบ ร่างกายสั่นระริกเพราะอยากจะวอนขออีกฝ่ายใจจะขาด เสียแต่ไม่อาจทำตามใจได้ จึงได้แต่มีความสุขกับความทรมานอยู่เช่นนี้

 

ซึ่งแน่นอนว่าสิทธิ์เข้าใจตรงข้ามทุกอย่าง ก็ถ้าให้คนทั่วไปดู ไม่ว่าจะนั่งดูหรือตะแคงดูก็เห็นเพียงแค่เดียร์ตัวสั่นเพราะไม่อยากจะอยู่ในสภาพนี้เต็มทน แต่ก็ไม่อาจต่อต้านร่างกายที่ร่ำร้องวอนหาการปลดปล่อยจากตัณหาที่ไม่พึงปรารถนานี่ได้ หากแต่ศักดิ์ศรีและความทะนงตนมันค้ำคอ จึงได้แต่นิ่งทนอยู่แบบนี้

 

“ไง พูดสิ อดกลั้นไว้มันไม่ดีนะ” ไม่ว่าเปล่ามีลูบไล้ให้ใจระส่ำ หวังให้อีกฝ่ายทรมานเจียนตาย ไม่ได้รู้อะไรเสียเลยว่าที่ทำๆอยู่ให้ผลตรงข้ามหมด

 

บอกตรงๆ ผมไม่แน่ใจว่าตรงนี้ผมควรจะยอมขอด้วยความอับอายดีหรือเปล่าน่ะครับ กลัวมันจะดูกระสันเกินไปจนคุณสังเกตได้น่ะสิ

 

เพราะมัวแต่ลังเลนานเกินไป สิทธิ์จึงเข้าใจว่าอีกฝ่ายทะนงเสียจนไม่ยอมปริปาก คิ้วหนามุ่นเข้าหาด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก

 

“ได้ เธอรนหาที่เองนะ”

 

เดียร์เบิกตาโพลงด้วยความตกใจระคนตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ร่างบางโดนพลิกกลับมานอนหงายอย่างแรง มือทั้งสองข้างที่ยังโดนมัดไพล่หลังโดนน้ำหนักของร่างกดทับอย่างแรง สร้างความเจ็บแสนสุขจนเดียร์เผลอครางเสียงหลง และยังไม่ทันได้เตรียมใจ มือหนาก็ตรงเข้าคว้าส่วนอ่อนไหวอย่างไม่มีการทะนุถนอม จนผู้เป็นเจ้าของกระตุกเกร็งร่างขึ้น เมื่อเดียร์พยายามแสร้งทำเป็นขืนหนี พ่อหมีแสนดีก็บีบท่อนเนื้อในมืออย่างไม่ปรานี จนเดียร์ได้แต่ยอมสยบแต่โดยดี

 

“คะ…คุณจะทำอะไรน่ะ…” เสียงหวานร้องลั่นเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของร่างสูง

 

“เดี๋ยวก็รู้” สิทธิ์เอ่ยเป็นนัย จากนั้นก็เอาสายหนังเส้นเล็กพันธนาการแก่นกลางเอาไว้จนแน่นพอที่จะทำให้อีกฝ่ายไม่อาจไปถึงฝั่งฝันอย่างที่ควรเป็น “นี่ของดีเลยนะ ฤทธิ์เป็นคนเลือกให้กับมือเลยล่ะ ถูกใจไหม”

 

อ๊าก ตอนนี้ผมอยากจะวิ่งไปกราบแทบเท้าคุณพี่เขาจะแย่อยู่แล้ว ซึ่งถ้าให้ดี ก็อยากจะลองโดนเท้าของคุณพี่เหยียบเข้ากลางหลังจังเลย

 

“อย่ามาพูดแบบนั้นนะ คุณพี่ไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย เขาไม่มีทางซื้อของแบบนี้มาแน่!”

 

“ทำไมจะไม่จริงล่ะ ก็ในเมื่อฤทธิ์เขาเกลียดนายจะตาย เขายังบอกอีกนะว่าของแบบนี้ เหมาะกับคนวิปริตอย่างเธอที่สุด”

 

ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผมคงเปลี่ยนเป้าหมายไปแล้วล่ะ…เอ๊ย ไม่ได้สิ ลืมไป เขามีเจ้าของแล้ว และผมก็กำลังปฏิบัติงานอยู่

 

“คนที่มันวิปริตก็คือคุณที่เอาของทุเรศๆแบบนี้มาใช้ต่างหาก” เด็กหนุ่มร้องด้วยน้ำเสียงสั่นและแหบพร่า “พี่ฤทธิ์เขาไม่ได้เกลียดผมสักหน่อย อย่ามาโกหก…อึก”

 

“ฉันจะโกหกไปทำไมกันล่ะ ลองไปถามดูสิ” เสียงทุ้มเย้ยหยัน “แต่ตอนนี้ฉันว่าเธอน่าจะห่วงตัวเองดีกว่านะ”

 

ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อโดนปลุกเร้าอีกครั้ง นิ้วชุ่มลื่นสอดแทรกเข้ามาภายในกายทีละน้อย ดวงตาเรียวมองใบหน้าเรียวที่ชื้นเหงื่อและขึ้นสีแดงระเรื่อ ท่าทางของเดียร์นั้นดูทรมานเสียจนน่าสงสาร

 

หากแต่สิทธิ์กลับยิ้ม

 

“อึก…พอสักที…” เสียงหวานวอนขออย่างสุดจะทน หลังจากเห็นเวลาบนนาฬิกาตั้งโต๊ะ ถึงจะนึกเสียดาย แต่ถ้ายืดเยื้อต่อไป มีหวังไม่สิทธิ์ก็เขานี่ล่ะ ที่จะได้นอนพังพาบไปทั้งวันเพราะความอ่อนเพลีย “ผมไม่ไหวแล้ว เอามันออกไปซักที!”

 

“ถ้าอย่างนั้นก็พูดสิ พูดหวานๆ อ้อนกันดีๆ บางทีฉันอาจจะใจดีก็ได้” หลังจากเพลิดเพลินจำเริญใจไปกับการเห็นเด็กหนุ่มทรมาน สิทธิ์ก็เพิ่งสำเหนียกได้ว่า เขาเองก็รุนแรงกับอีกฝ่ายมากเกินไปแล้ว ชายหนุ่มได้แต่ภาวนาขอให้เดียร์ยอมทำตามแต่โดยดีสักที เพราะไม่อย่างนั้นเขาก็นึกไม่ออกว่าจะยอมปล่อยเดียร์ด้วยเหตุผลไหนดีโดยไม่ให้ดูเหมือนปล่อยเพราะสงสาร

 

ใบหน้าหวานยังคงเต็มไปด้วยการต่อต้าน หากแต่ก็ไม่อาจฝืนทนกลั้นสิ่งเร้าที่ถาโถมเข้ามา ริมฝีปากบางขยับขึ้นลงอย่างสั่นไหว เสียงน้อยๆค่อยๆลอยออกมาจากลำคอเล็ก พร้อมกับท่าทีศิโรราบอย่างจำยอม

 

“ได้โปรด ผมต้องการ…” พูดเพียงแค่นั้นแล้วก็เม้มปากแน่น เด็กหนุ่มเบี่ยงหน้าไปอีกทางราวกับไม่อาจฝืนทนความอับอายที่ต้องพูดถึงความต้องการภายในที่ตนไม่อาจต้านทานได้

 

“ก็แค่นั้น ทำเป็นเล่นตัวอยู่ได้” สิทธิ์กระแทกเสียงใส่ทั้งที่ความจริงโล่งใจแทบตาย

 

เดียร์สะดุ้งนิดหน่อย อีกฝ่ายไม่ได้ทำตามอย่างที่บอก แต่กลับแทรกตัวเข้ามาแทน เล่นเอาอารมณ์ที่ซัดเข้ามาเหมือนคลื่นอยู่แล้ว กลับยิ่งถาโถมเข้ามาดั่งสึนามิเลยทีเดียว

 

“ฉันให้เธอเสร็จแน่ แต่ต้องหลังจากที่ฉันเสร็จด้วย” ชายหนุ่มเยาะ พร้อมกับขยับร่างอย่างเป็นจังหวะ “ทนเอาหน่อยละกัน ฉันจะพยายามรีบนะ”

 

ปากก็บอกแบบนั้นแต่ใจจริงแล้วอยากจะขอต่อนานๆเสียเหลือเกิน แต่กลัวมันจะดูใจร้ายไปเลยต้องยอมตัดใจเสีย

 

“อ๊ะ ไม่นะ…ผมไม่ไหวแล้ว” เสียงหวานร้องลั่น ร่างกายที่กระแทกเข้ามารุนแรงและร้อนเร่าราวกับจะฉีกตนออกเป็นชิ้นๆ ความรู้สึกที่คล้ายกับจะไปถึงฝั่งหากแต่ทำไม่ได้คอยรุมเร้าจนเขาแทบคลั่ง แต่สิ่งที่ตนทำได้กลับมีเพียงกรีดร้อง…อย่างมีความสุขกับความทรมานเจียนตายนี่

 

สิทธิ์คลี่ยิ้มบางมองใบหน้าอีกฝ่าย เมื่ออารมณ์ของตนกำลังจะปะทุ เขาก็ทำตามที่ว่าไว้ทันที สัมผัสผิวของเด็กหนุ่มร้อนเหมือนไฟจนน่ากลัว ชายหนุ่มแกะสายรัดออกโดยไม่คิดจะถนอมอีกฝ่ายนัก และทันทีที่ปลดพันธนาการออก อารมณ์ที่ร่ำร้องอยู่ภายในร่างของเดียร์ก็ทะลักพรวดออกมาอย่างไม่รีรอ และเพียงไม่นานชายหนุ่มก็ตามอีกฝ่ายไปติดๆ

 

ร่างสูงหอบเล็กน้อย รู้สึกเหนื่อยกว่าที่คิดเยอะโข อันที่จริงเขาก็ไม่คิดว่าจะฮึดล่อไปเสียตั้งห้าครั้ง เลยทำเอาเกือบยืนไม่อยู่เลยทีเดียว สิทธิ์ลอบมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง เมื่อเห็นว่าเดียร์หลับไปแล้ว เขาก็ถอนหายใจออกมาจนหมดปอด จากนั้นก็จัดแจงถอดอุปกรณ์เสริมออกจากร่างเล็กจนหมด ขยับให้เดียร์นอนดีๆแล้วก็ห่มผ้ามิดชิด ก่อนจะคลานไปยังที่นอนของตนอย่างอ่อนแรง

 

….

 

…..

 

แล้วทำไมเราต้องเป็นห่วงกลัวหมอนั่นจะเป็นหวัดหรือเจ็บที่ต้องโดนรัดด้วยวะ!!!

1 ตอบกลับที่ Twenty-two

  1. Shin ♥ พูดว่า:

    คุณสิทธิ์เข้าสายเอสไปเรียบร้อยแล้น..

ใส่ความเห็น