เรื่องในวันหนึ่ง

ว่าจบก็ดึงแขนให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ๆ มืออีกข้างก็ค่อยๆลูบต้นขาตรงหน้าขึ้นไปเรื่อยๆกระตุ้นอารมณ์คนรัก

“…แล้วผมมีสิทธิ์ขัดหรือเปล่าล่ะครับ” จะให้ขัดได้ไงล่ะ ถ้าบอกไม่เอาก็บังคับอยู่ดี “แล้วผมเคยขัดคุณซักครั้งไหม”

ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนี่นา แล้วจะปฏิเสธทำไม

“เพราะนายมันลามกน่ะสิ” สัญหัวเราะใส่ “ถึงไม่เคยขัดไง”

“พูดได้พูดไปครับ”

โมกข์ ผลักอีกฝ่ายให้นอนราบลงกับเตียง เสียงแลกลิ้นนัวเนียแสดงความรักอย่างร้อนรุ่มดังเป็นระยะๆสลับกับเสียงหายใจ ระรัวของทั้งสองฝ่าย มือใหญ่คอยสะกิดยอดอกคนด้านล่างให้เสียวเล่น ส่วนมืออีกข้างก็จับหัวอีกฝ่ายจนเกือบจะจิกบังคับไม่ให้ยอมแพ้เอาดื้อๆ ถ้าเป็นเรื่องอื่นโมกข์ก็คงไม่คิดจะทำรุนแรงหรอก แต่เพราะรู้อยู่แล้วว่าคนรักตัวเองชอบให้ใช้กำลัง และเขาเองก็สนุกกับมันด้วย อย่างน้อยตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาเดียวที่เขาไม่ต้องเกรงใจอีกฝ่ายที่เป็นนายตน

“จะให้ทำหรือทำผมล่ะ” ร่างสูงเอ่ยถามหลังจากพอใจกับรสจูบดุดันที่ต่างฝ่ายต่างแลกกัน

“ขอทำบ้างละกัน ไม่ได้ทำนานๆแล้วมันคิดถึง” สัญยิ้มให้อีกฝ่ายด้วยความถูกใจ “อยากเห็นหน้านายทรมานจัง”

“ยังไงก็ได้อยู่แล้วครับ” ว่าจบก็หัวเราะหึในลำคอ “แต่ว่าอย่าลืมงานละกัน”

“…ฉัน จะหมดอารมณ์เพราะนายชอบทำเหมือนเป็นผู้ปกครองฉันนี่ล่ะ” เจอประโยคช่วงท้ายถึงกับทำหน้าบูดใส่ “ฉันรู้อยู่แล้วล่ะน่า ไม่ต้องย้ำหรอก”

“ก็เพราะคุณชอบทำตัวเป็นเด็กๆนี่ครับ” โมกข์ว่ากลับอย่างไม่เกรงใจ “หรือจะเถียง”

“คร้า บ ใครจะกล้าเถียงพี่ชาย” สัญเอ่ยเสียงสูงเรียกอีกฝ่ายด้วยคำที่ปกติไม่ค่อยเรียก ตอนนี้ผ้าขนหนูที่เกาะอยู่ตรงเอวหลุดหายลงไปกองปลายเตียงเรียบร้อย “งั้นช่วยออกไปหน่อยสิ ขอเวลาเตรียมตัวซักเดี๋ยว”

โมกข์ ผละตัวออกให้อีกฝ่ายลุกออกจากที่นอนไปนั่งเปิดลิ้นชักโต๊ะเล็กๆข้างเตียง ในขณะที่สัญกำลังฮัมเพลงตัดสินใจว่าจะเลือกของสิ่งใดที่อยู่ด้านในดี มือใหญ่ก็คอยโอบรัดเขาจากด้านหลัง ลิ้นอุ่นลากไล้เลียเล่นซอกคอต่อไปถึงใบหู จนอีกฝ่ายเผลอสะบัดหนีเพราะทนความเสียวซ่านไม่ได้

สัญ เอี้ยวตัวหันมาจับมืออีกฝ่ายไพล่หลัง เสียงโลหะกระทบกับความสัมผัสเย็นๆที่อยู่รอบข้อมือทำให้โมกข์เดาได้ว่าอะไร พันธนาการมือทั้งคู่ของตน และยังไม่ทันที่จะได้หันหลังไปสำรวจ คอตนก็โดนสายหนังสีดำผูกรอบ มีโซ่วาวเส้นเล็กร้อยยาว ที่ปลายเส้นโซ่ร้อยพันติดอยู่ที่มือสัญเอาไว้เพื่อบังคับคนตรงหน้าได้อย่าง สะดวก

“เล่น แบบนี้หรือครับ” โมกข์เอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง มือเล็กเชยคางตนขึ้นพร้อมกับจุมพิตเบาๆ ซึ่งทำให้เขารู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ความอ่อนโยน แต่เป็นการเตือนให้เตรียมใจพร้อมรับกับสิ่งที่กำลังจะต้องเผชิญ แถมให้เวลาไม่นานซะด้วย “แบบนี้เขาเรียกว่าทำแบบที่คนรักทำหรือไง”

“พูดมากน่า ก็ฉันชอบแบบนี้นี่”

ร่าง เปลือยผลักอีกฝ่ายลงไปนอนบนเตียง เสียงกรุ๊งกริ๊งของสายโซ่กระทบดังไปมาพร้อมกับเสียงทุ้มหนักของร่าง กายกระแทกกับที่นอน ความรู้สึกเจ็บแปลบที่โดนข้อมือทำให้โมกข์นิ่วหน้า สายโซ่ของกุญแจมือไม่ได้ยาวมากเท่าไหร่ ทำให้เขาต้องนอนทับมือตัวเอง กางเกงสแลคสีกรมท่าโดนถกลงจนหลุด เหลือเพียงแต่เสื้อเชิ้ตตัวบางที่ยังคงปกปิดช่วงบนเอาไว้

“…จะ ทำ อะ ไร ก่อน ดี นะ” สัญเอ่ยวรรคคำเป็นจังหวะ มือข้างหนึ่งกระตุกโซ่ปลอกคอเล่น แล้วค่อยๆเข้าไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ดๆ “ท่าทางจะยังกระตุ้นอารมณ์นายไม่พอนะ”

ว่า จบก็ดีดนิ้วบนส่วนปลายของแก่นกลางที่ยังคงนอนนิ่ง เสียงร้องเล็กๆดังขึ้นมาพร้อมกับกระตุกร่างกายเพราะไม่ทันตั้งรับ “พลิกตัวหน่อยสิ”

เพียง แค่สั่งสั้นๆก็ทำตามอย่างว่าง่าย แต่ก็ลำบากอยู่นิดหน่อยเพราะมือโดนกุญแจมือคล้องอยู่ โมกข์ได้ยินเสียงอีกฝ่ายครูดตัวลงจากเตียงเลยพยายามจะหันไปดู แต่ยังไม่ทันไรนิ้วเย็นวาบก็รุกล้ำเข้ามาในร่างกายอย่างไม่ทันตั้งตัวจนเผลอ ครางออกมาเสียดังพร้อมกับเสียงหายใจเฮือกใหญ่

“มี แค่ตอนนี้เท่านั้นล่ะที่นายจะน่ารักแบบนี้” สัญเอ่ยชมเสียงระรื่น นิ้วก็ควงหมุนแบบไม่เห็นใจอีกฝ่ายแต่อย่างใด “ร้องให้ฟังอีกหน่อยสิ”

ริม ฝีปากที่โดนกัดจนแน่นเพราะเจ้าตัวไม่อยากจะส่งเสียงค่อยๆคลายลงอย่างยาก ลำบาก ถึงจะยอมทำตามแต่ถ้าไม่โดนกระตุ้นให้รู้สึกวาบถึงขนาดนี้เขาก็ไม่ยอมทำให้ ง่ายๆหรอก

“แต่ เรื่องปากหนักนี่ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลยนะ” สัญบ่นให้ฟังโดยไม่หยุดมือ เขาค่อยๆลดความเร็วลงก่อนจะดึงออกจากร่างอีกฝ่าย แล้วก็สอดกลับเข้าไปใหม่ ทำแบบนี้สลับไปมาโดยไม่รู้สึกร้อนใจอะไรราวกับกำลังแข่งความอดทนกับอีกฝ่าย “อยากให้เล่นแรงกว่านี้หรือไง”

“อือ…” หลังจากกลั้นเอาไว้อยู่นานก็เริ่มร้องครางออกมาเบาๆเพราะชักทนไม่ได้ การเป็นฝ่ายรับแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาถนัดเท่าไหร่ และไม่ได้ทำบ่อยๆด้วย พอต้องมารับบทนี้เลยทำให้ควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ “พอเถอะ…”

“ไม่” อีกฝ่ายยื่นคำขาดพร้อมกับขยับมือไม่หยุด “อย่าหนีเชียว ไม่งั้นฉันจะจับนายมัดซะ”

ถึง จะไม่ใช่พวกชอบใช้กำลังแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีแรงสักหน่อย สัญเองก็เป็นผู้ชาย อย่างน้อยๆก็กดคนให้นอนลงได้ไม่ยากเย็น ยิ่งพออีกฝ่ายพยายามดิ้นและใช้มือทั้งสองที่โดนพันธนาการปัดไปปัดมาก็รั้ง โซ่เงินที่ติดกับปลอกคอขึ้นจนทำให้ผู้ที่สวมใส่หายใจติดขัด เลยทำให้โมกข์อ่อนแรงลงจนยอมอยู่นิ่งๆปล่อยให้สัญจัดการต่ออย่างสะดวก

“อึก…” เขากัดฟันแน่น เสียงที่ไม่อาจห้ามได้ค่อยๆหลุดออกจากลำคอเป็นระยะ จนหลังๆเขาเริ่มเปิดปากออกมาอย่างง่ายดาย หากไม่ทำแบบนี้เขาคงต้องคลั่งตายเป็นแน่ เขาส่งเสียงแหบพร่าดังสลับเสียงหอบดังราวกับว่ามันจะช่วยระบายอารมณ์ที่ปะทุ อยู่ภายในออกมาได้บ้าง

“อืม~ ค่อยชื่นใจหน่อย” หลังจากแกล้งอีกฝ่ายจนหนำใจแล้วก็พลิกร่างอีกฝ่ายกลับมานอนหงายดังเดิม ใบหน้าที่มีอายุแดงระเรื่อด้วยความเหนื่อยหลังจากผ่านการทรมานอารมณ์มา สัญหยิบแท่งเทียนสีแดงที่วางเตรียมไว้อยู่ข้างๆ นั่งอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของอีกฝ่ายปรายตามองช่วงกลางซึ่งตอนนี้ตื่นตัว ขึ้นมาเต็มที่นานแล้ว “ยังหรอกน่า ลองนี่ก่อนสิ”

เปลว ไฟสีแดงจ้าลุกไหม้อยู่บนเทียนเนื้อแดงเข้มสะกิดความสนใจของโมกข์ แต่เขาไม่นึกอยากรู้หรอก ว่าคนถืออยากทำอะไรกับมัน ถึงจะเคยโดนมาบ้าง แต่ก็ไม่คิดจะชินกับมันหรอก

“อะ!”

เสียง ทุ้มหลุดรอดออกมาด้วยความตกใจเพราะความร้อนวูบของน้ำตาเทียนที่หยดลงบนต้นขา เขาสะดุ้งทุกๆครั้งที่แต่ละหยดจดลงมาบนร่าง ความร้อนวูบเมื่อแรกสัมผัสโดนทำเอารู้สึกแสบนิดๆก่อนจะหายวับไปค่อยๆเลื่อน ตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆและวนเล่นอยู่ตรงหน้าท้องแกร่ง อีกทั้งยังมีนิ้วยาวเข้ามาจี้ตรงยอดอกที่ตั้งชูชันอย่างแรงเพื่อให้อีก ฝ่ายกรีดเสียงร้องบรรเลงปลุกอารมณ์ตนเรื่อยๆ

“ฮึก…อะ ….คุณสัญ อะ….” ร่างสูงร้องครวญคราง ถึงจะรู้ว่านั่นรังแต่จะทำให้คนรักสนุกยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถหยุดมันได้อีกต่อไป “อ๊ะ ตรงนั้น…”

มือ ที่พันสายโซ่เลื่อนตำแหน่งลงไปยังกลางลำตัว สัญคลายมือโรยสายโซ่ไว้รอบๆก่อนจะกอบกำท่อนแข็งของอีกฝ่ายไว้แน่น “ท่าทางถ้าฉันเกิดเปลี่ยนใจตอนนี้ฉันคงลุกขึ้นมาทำงานไม่ไหวแน่ๆ”

ก็อย่าให้ถึงทีบ้างก็แล้วกัน แล้วจะเล่นให้ลุกออกจากเตียงไม่ได้เลย

ใบ หน้าแดงระเรื่อส่งมองลงด้วยแววตาบอกเป็นเชิงแค้นเล็กๆพลางหัวเราะหึออกมา เบาๆอย่างสิ้นแรง เนื้อตัวเต็มไปด้วยหยดเทียนที่แห้งเกาะอยู่เต็มไปหมด เขารู้สึกเจ็บแปลบไปที่รอบๆข้อมือมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งนอนทับไว้แบบนี้ด้วยยิ่งทำให้รู้สึกชาจนแม้แต่นิ้วก็กระดิกไม่ไหว “จะทรมานอะไรผมต่ออีกล่ะ”

“พูดแบบนั้นแสดงว่าอยากโดนต่องั้นเหรอ”

ว่า จบก็สะบัดน้ำตาเทียนใส่อีกรอบ ก่อนจะดับเทียนที่เหลือเพียงครึ่งเล่มลง แล้วขึ้นคร่อมโน้มตัวลงไปจูบริมฝีปากสั่นระริกไม่ให้อีกฝ่ายใช้หายใจ โมกข์พยายามบิดคอหนีอีกฝ่าย แต่สายโซ่ตรงคอก็คอยรั้งเอาไว้ไม่ให้ขืนหนี อีกทั้งยังโดนมือที่ว่างอยู่ดักทางเอาไว้ด้วย จึงทำได้เพียงแต่กำหมัดแน่น ขาก็พยายามจิกที่นอนด้วยความทรมานเพราะหายใจไม่ทัน

“ฮึก…” เสียงหอบหายใจระรัวดังขึ้นเมื่อได้รับอิสรภาพ สัญมองอีกฝ่ายอย่างชื่นมื่น สภาพสิ้นท่าของคนรักช่างเป็นภาพที่น่าดูเหลือเกิน

“ไม่แกล้งล่ะ เดี๋ยวจะโดนแกล้งกลับ” หลังจากสุขสมก็เอ่ยกระซิบบอกให้โล่งใจว่าจะไม่แกล้งอะไรแรงๆต่ออีก

คน ตัวเล็กกว่าร่นถอยลงไปด้านล่างก่อนจะใช้มือยกขาอีกฝ่ายขึ้นมา แล้วมองช่องทางเล็กที่กำลังร่ำร้องต้องการปลดปล่อยอย่างอารมณ์ดี สัญเลื่อนมือลงมาจับสะโพกให้มั่น ท่อนเนื้อหนาค่อยๆสอดรับเข้าไปช้าๆและเนิบนาบจนสุดลำ ก่อนจะถอนออกด้วยความเร็วที่เท่ากันสลับไปมา

“…ไหนบอกว่า…จะไม่แกล้งแล้วไง…” โมกข์เอ่ยถามปนหอบหนักๆอย่างทนไม่ได้ “ทำเถอะครับ…อ๊ะ”

“ใจเย็นๆสิ…” เสียงทุ้มบอกอีกฝ่าย มันปนความรู้สึกที่กำลังสนุกอยู่ด้วย เลยทำให้คนฟังหมั่นไส้ “ของแบบนี้มันต้องค่อยๆ”

“…ที่ตอนผมทำให้….เร่งให้ทำเร็วๆทุก…อึ๊ก” พอจะสวนกลับก็โดนกระแทกเข้ามาแรงๆจนตั้งตัวไม่ทัน “อ๊า”

“ก็ ฉันอยากเห็นนายทำหน้าทรมาน ส่งเสียงครวญครางจะเป็นจะตายแบบนี้นี่นา” สัญบอกความต้องการร้ายกาจให้อีกฝ่ายฟังอย่างไม่รู้สึกรู้สา “ดูกี่ทีก็ไม่มีเบื่อเลยน้า”

คนนอนเหลือกตามองลงล่างอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะแค่นยิ้มออกมา “รอบคุณก็ระวังไว้เถอะ”

“อ๊ะ ขู่แบบนี้ฉันกลัวน้า” ถึงปากจะว่าแบบนั้นแต่ยังแกล้งอีกฝ่ายไม่เลิก ขยับสะโพกไปมาช้าๆ จนร่างทั้งร่างของผู้โดนกระทำเริ่มสั่นไม่หยุด “เอาน่า ยังไงฉันเองก็คงทนได้ไม่นานเหมือนกัน”

ว่า จบก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้น แสดงให้เห็นว่าคราวนี้พูดจริง มือขวาที่ว่างอยู่ ปัดสายโซ่เส้นเล็กที่คล้องท่อนแข็งของอีกฝ่ายอย่างหลวมๆออก แล้วใช้มือรวบคอยเร่งเร้าอารมณ์ที่คุกรุ่นอย่างชำนาญ

“อ๊ะ อา…” แม้จะพยายามแล้วแต่เสียงก็เปล่งออกมาจากลำคอโดยมิอาจห้ามเอาไว้ได้ และยิ่งไม่ยอมส่งเสียง ก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายจ้องเล่นงานจนต้องเผลอร่ำร้องไปเรื่อย เขาได้แต่นึกสมเพชตัวเอง ทั้งๆที่ใจไม่ได้พิสมัยเลยแท้ๆแต่ร่างกายกลับตอบสนองต่อความรุนแรงที่ได้รับ ก็คงติดโรคมาจากคนใกล้ตัวนี่ล่ะ ที่ชอบบังคับให้ทำจนร่างกายมันติดใจอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเช่นนี้

“ร้องแบบนั้นล่ะ อย่าหยุดสิ” สัญบอกด้วยความรื่นเริง “ทนไม่ไหวแล้วหรือยัง”

อารมณ์ที่รุมเร้าเข้ามาทำให้ต้องตั้งสติอยู่นานกว่าจะตอบออกไปได้ “…ไม่…ไม่ไหว…”

“งั้นช่วยรออีกหน่อยนะ” ว่าจบก็ค่อยๆขยับตัวช้าลงไปพักหนึ่ง ก่อนจะเร่งกลับขึ้นมาจนคนที่นอนอยู่กรีดร้องลั่น “อึก…อืม….”

ของ เหลวสีขาวถูกขับพุ่งออกมาจนเลอะทั่วท้องแกร่งของโมกข์ สัญยังคงขยับมือที่โอบรัดอีกฝ่ายต่อเรื่อยๆ เขารู้สึกได้ว่าตัวเองโดนตอดรัดตุบๆเมื่อเคลื่อนไหวมือเลยเล่นเพลินเสียจน แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายร้องวอนขอราวกับจะขาดใจ เมื่อพอใจแล้วจึงกระแทกเข้าไปอีกสองสามทีก่อนจะถอนตัวออกมาช้าๆ

“หมด แรงแล้วเหรอ” สัญหยอกถามอีกฝ่าย มือลูบลงบนท้องที่เต็มไปด้วยหยดเทียนแดงที่แห้งและน้ำรักอย่างไม่รังเกียจ สายตาเบนไปยังใบหน้าคมของคนมีอายุที่ยังคงหอบหายใจอย่างหมดแรง

โมกข์ ไม่ได้ตอบอะไร เขายิ้มที่มุมปากราวกับเป็นการเย้ยถามกลับพร้อมกับหัวเราะเบาๆในลำคอ ส่งผลให้อีกฝ่ายนิ่วหน้าขึ้นมานิดๆด้วยความไม่พอใจ

“นายท้าเองนะ” ว่าจบก็พลิกร่างอีกฝ่ายให้นอนคว่ำลงอย่างไม่มีถนอมจนทำให้หนุ่มใหญ่ส่งเสียงครางด้วยความเจ็บปวด

ต่อให้ไม่ต้องถาม โมกข์ก็รู้อยู่แก่ใจว่าสัญคิดจะทำอะไรต่อไป ก็ดันไปท้าเองนี่นา

“อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปเสียก่อนล่ะ”

คำพูดจากปีศาจผู้ร้ายกาจกระซิบดังอยู่ข้างหู ก่อนที่การทรมานจะเริ่มดำเนินต่อไป โดยที่ไม่สามารถรู้ได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด

……………

“เป็น ไงบ้าง” หลังจากเสร็จสมอารมณ์หมายก็ยิ้มถามอีกฝ่ายที่นอนหอบเหมือนคนขาดอากาศ แเสงตะวันใกล้ค่ำทอส่องสลัวเลยทำให้เห็นสีหน้าไม่ชัดนัก “ลุกไหวไหม”

โมกข์ปรายตามองคนที่เข้ามานอนข้างกายก่อนจะแค่นยิ้มกลับ “ยังไงก็ช่วยเอากุญแจมือออกก่อนเถอะครับ”

“อืม หันหลังไปสิ” สัญสั่งก่อนจะลุกไปหยิบกุญแจที่วางไว้บนโต๊ะเล็กมาไขออก รอบข้อมือเป็นรอยแดงช้ำจากการกดทับเสียดสีเป็นเวลานานและห้อเลือดนิดๆ “เจ็บไหม”

“ก็เจ็บสิครับ” โมกข์ตอบราวกับคนสิ้นแรง “โดนทำไปตั้งขนาดนั้นแล้วนี่”

“ฮะๆๆ นั่นสินะ” หลังจากหัวเราะจนสาแก่ใจก็ลุกออกจากเตียง “งั้นก็นอนต่อไปก่อนก็แล้วกันนะ ลุกไหวเมื่อไหร่ก็มาเล่นงานฉันได้ทุกเมื่อเลย”

“…คุณพูดเองนะครับ”

ไม่ ทันที่จะลุกออกจากเตียงก็โดนฉุดเข้ามาพิงแผงอกของอีกฝ่าย มือหนาจับคางอีกฝ่ายยกขึ้นมารับจุมพิตรุนแรงแก้แค้นกลับพลางรัดร่างในอ้อม แขนไม่ยอมให้หนีไปไหนได้

“หลอกกันงั้นเหรอ” สัญถามด้วยความขุ่นเคือง ไม่คิดว่าจะโดนเอาคืนเร็วขนาดนี้

“คุณ ก็รู้อยู่แล้วนี่ครับ ผมน่ะไม่หมดแรงง่ายๆหรอก” หนุ่มใหญ่หัวเราะเบาๆด้วยความพอใจก่อนจะจับร่างอีกฝ่ายกดลงนอนบนเตียง ที่เดียวกับที่เขาโดนแกล้งไปเมื่อครู่ ซึ่งยังคงชื้นไปด้วยเหงื่อจากร่างของตนอยู่ “คราวนี้ก็โดนบ้างละกัน”

“จะเล่นให้หมดแรงเลยเหรอ~” ถามเสียงสูงยั่วอีกฝ่าย ยังคงคลี่ยิ้มทั้งๆที่กำลังจะโดนดีในอีกไม่ช้า “เดี๋ยวฉันทำงานไม่เสร็จนะ”

“ไม่ เป็นไร เดี๋ยวผมทำแทนให้ก็ได้ ปกติก็ใช้ให้ทำเป็นประจำอยู่แล้วนี่ครับ จะกลัวอะไร” โมกข์ตอบเสียงเรียบ “ตอนนี้ผมอยากแกล้งคุณมากกว่า จะทำให้ร้องไม่ออกเลย”

“งั้นชั้นจะคอยดู ว่าทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า” สัญโยกคอเอ่ยท้าทายอีกฝ่าย “แต่ถ้าทำให้ฉันไม่พอใจล่ะก็มีเรื่องแน่”

ลงท้ายก็ยังเอาแต่ใจอยู่เรื่อย ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยเปลี่ยน

แต่ก็ทำตามเสียทุกที

1 ตอบกลับที่ เรื่องในวันหนึ่ง

  1. เน พูดว่า:

    อ้ากกกกกกกกกออยากอ่านแนวนี้มานานแว้วววววววววว
    smจงเจริ้ญญญญญญญญญย

ใส่ความเห็น