Fifty- five

พูดจบก็ปิดปากอีกฝ่ายอย่างรำคาญปนกลัวว่าจะโดนขัดอีก และทั้งที่วินก็ไม่ได้จูบอะไรรุนแรง แต่ชากลับส่งเสียงประท้วงในลำคอเหมือนจะขาดใจ แต่ทั้งอย่างนั้นก็ไม่ได้ขัดขืนฝืนหนีแต่อย่างใด ก็ยอมให้เขาจูบอย่างอ่อนโยนแต่โดยดี

แล้วมันก็ชวนให้นึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก จนเผลออ้อยอิ่งนิ่งมองเจ้าลูกน้องที่หลับตาหน้าแดงเป็นลูกตำลึงตรงหน้าเสียเพลิน…จากทีกำลังลังเลว่าจะต้องรุนแรงสนองความต้องการอีกฝ่ายเพื่อปลอบประโลมบ้าง กลายเป็นว่าชักอยากจะแกล้งให้ชักตายไปเลยเสียมากกว่า

ชาถึงกับสั่นระริกกับรสจูบที่แสนหวาน ยิ่งปรือตามาเห็นว่ากำลังโดนจ้อง เขาก็อยากจะมุดเตียงหนีให้รู้แล้วรู้รอดเสียจริง แต่เพราะทำไม่ได้จึงทำแค่เพียงหลับตาหนี…ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเพราะทำแบบนั้นหรือเปล่า เลยยิ่งโดนประโคมความหวานและอ่อนโยนเสียจนแทบสำลัก

“ไง พอจะไหวไหมครับ” เสียงทุ้มกระซิบถามอย่างแผ่วเบาข้างหู แต่ทำเอาคนฟังทรมานแทบขาดใจในหลายๆความหมาย “หรือถ้ารุนแรงไป ผมจะได้ทำให้อ่อนโยนกว่านี้”

ไม่ซาดิสม์เล้ย พ่อคุณ!

วินยกยิ้มเมื่อเห็นชาเพียงแต่ส่งสายตาเจ็บใจมาให้หลังจากเขาผละออกมา นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มชักอยากแกล้งเล่นมากว่าเดิม แม้อันที่จริงการเห็นผู้ชายที่รูปร่างไม่ต่างจากตนมาแสดงความอ่อนแอให้เห็นแบบนี้จะทำให้วินรู้สึกสมเพชเสียมากกว่า…แต่ในตอนนี้เขาถึงรู้สึกว่าอีกฝ่ายน่ารักน่าแกล้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเหลือเกิน…หรือไม่ก็คงอยากแก้แค้นคืนมานานแล้วกระมัง…ก็มันเล่นกวนประสาทใส่มาตั้งหลายปี เพิ่งจะได้เอาคืนแบบสะใจจริงๆจังๆก็คราวนี้ล่ะ

เพราะรักน่ะหรือ

เขาอดหัวเราะตัวเองไม่ได้ ถึงจะไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นไปแล้ว เขาก็ไม่ใส่ใจจะไปสงสัยถึงช่วงเวลา เพราะสิ่งที่สำคัญกว่ามาอยู่ตรงหน้าแล้ว…และเขาเองก็เริ่มจะอดใจไม่ไหวแล้วด้วย

“อ๊ะ…เดี๋ยวสิครับ…” ชาร้องเสียงหลงเมื่อวินทำท่าจะถอดเสื้อของตน “ผมว่าผมไปอาบ…น้ำก่อนดีไหม…วะ…วันนี้ทั้งวันเราก็ไปบุกน้ำลุยไฟมาตั้งเยอะ…ผมว่าถ้าทำเลยมันคงจะไม่ดี…”

แต่สีหน้าของวินคัดค้านอย่างชัดเจน

“โอ๊ย อยู่กันมาตั้งนาน ได้กลิ่นจนชินแล้วล่ะน่า” วินว่าโดยที่มือก็ยังปลดเสื้อเชิ้ตสีเทาลายสก็อตของชาไม่หยุดมือ “หรือนายรังเกียจฉันกันล่ะ”

ใช่ก็บ้าแล้ว

เมื่อชาเอาแต่ค้าง วินก็เพียงแต่ยักไหล่และใช้มือทาบลงบนแผงอกที่หนาไม่ต่างจากตน…ซึ่งเขาก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร แต่พอเห็นชาทำท่าเหมือนจะระเบิด เขาก็อดลูบไม่ได้ แน่นอนว่าอย่างอ่อนโยนที่สุด…แล้วดูสิ ทั้งที่ไม่ได้รุนแรงแท้ๆ แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้าเหมือนจะทนไม่ได้เสียแล้ว ไม่รู้จะเรียกว่าความรู้สึกไว หรือเพราะมันเป็นของแสลงที่ไม่คุ้นเคยกันแน่นะ

“อะไร ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะ” วินเยาะ เมื่อเห็นชาพร้อมจะวิ่งเข้าเส้นชัยเสียแล้ว “จะทิ้งกันแล้วหรือ ไหนว่ารักกันไง”

“…มันเกี่ยวที่ไหนกันละครับ” ชาย้อนเสียงขุ่น ก็ยังดีที่วินไม่แกล้งเขาด้วยห้ามเอามือปิดปากตัวเอง เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้นมีหวังเสียงที่ไม่อยากจะให้วินฟังคงหลุดออกมาได้หนึ่งซิงเกิ้ลแล้ว “ผมไม่ได้ปวกเปียกขนาดแค่ครั้งสองครั้งแล้วจะหมอบนะครับ”

ยังยั่วไม่เลิก

“โฮ่ พูดแบบนี้จะบอกว่าให้ทำกี่รอบก็ได้สินะ” วินถามเสียงสูง ยิ่งเห็นชาท้ากลับด้วยสายตา ชายหนุ่มก็ยิ้มกว้าง “ดี แต่ตอนนี้ฉันไม่อนุญาตให้นายเสร็จก่อนหรอกนะ”

ถึงกับหน้าเบี้ยวทันควัน “แล้วจะให้ผมยังไงล่ะครับ”

“จะไปรู้เรอะ ก็จับไว้สิ อย่าให้มันออกมา” วินบอกติดตลก แล้วจับมือชาลงมาหาภูเขาไฟที่ใกล้ปะทุ “เอ้า จับไว้ หลุดออกมานี่ฉันจะพูดกับนายด้วยคำพูดหวานๆไปสองอาทิตย์เลย”

หนาวไปถึงกระดูกเลยทีเดียว

เห็นคนอายุมากกว่าพยายามห้ามอารมณ์ที่จะพุ่งออกมาอยู่รอมร่ออย่างเอาเป็นเอาตาย วินก็อดยิ้มไม่ได้ และถึงจะสนุกก็ไม่อยากจะแกล้งนานเพราะสงสารเหมือนกัน ยังไงเสียจากนี้ไปก็มีเวลาอีกทั้งชีวิตที่จะได้แกล้งอยู่แล้ว

ร่างตรงหน้าสั่นระริกเมื่อวินค่อยๆรุกล้ำเข้าไปหา มือทั้งสองก็พยายามประคองอารมณ์ของตัวเองสุดชีวิต ใบหน้าที่บิดเบี้ยวคล้ายกับทรมานสะบัดไปมาเหมือนกำลังสู้กับบางสิ่งบางอย่างสุดตัว

“จะว่าไปก็ง่ายกว่าที่คิดนะ” วินหยอกคนที่เอาแต่หลับตาปี๋เพราะหนีสายตาของตน “หรือจริงๆเคยไปทำแบบนี้กับคนอื่นมาก่อน”

“เปล่าสักหน่อยครับ…” เสียงทุ้มที่ตอบกลับแหบพร่า

“ไม่จริงอะ ฉันว่าปกติมันไม่น่าจะเข้าง่ายขนาดนี้นะ” วินยังคงเซ้าซี้ไม่เลิก เห็นคนตรงหน้าจะบ้าตายเพราะคำถามตัวเองแล้วสนุกอย่างบอกไม่ถูก “เคยไปทำกับคนอื่นก็บอกมาสิ ฉันไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”

ดวงตาเรียวปรือมองทั้งที่ออกอาการจะระเบิดทุกขณะที่โดนจ้องตา ท้ายที่สุดก็ได้แต่เบี่ยงหน้าไปทางอื่น

“ก็ทำเองนั่นล่ะครับ…” ถ้าหนีไปได้เสียเดี๋ยวนี้ก็คงดี เพียงแต่ตัวเองก็มั่นใจว่าต่อให้อีกฝ่ายไม่รั้ง เขาก็ไม่หนีหรอก “ก็คิดว่าคงไม่มีโอกาสแบบนี้…เลยพยายามหาอะไรที่มันใหญ่พอๆกับของคุณมาใช้…”

วินค้างนิ่ง…ไม่แน่ใจว่ากำลังดีใจหรือแปลกใจที่เจ้าหมานี่มันแอบมารู้ไซส์ตัวเองได้ยังไง แต่ยังไงเสียในเมื่อชมกันขนาดนี้ ใครจะไม่ดีใจบ้าง

“อ๊ะ…ดะ…เดี๋ยวสิครับ…” ก่อนที่วินจะดำเนินการไปมากกว่านี้ ชาก็ร้องห้ามเสียงเครือ “ถ้าคุณรีบเข้ามาขนาดนี้ ผมทนต่อไปไม่ไหวแน่ๆ”

“หรือจ๊ะที่รัก”

จากที่กำลังโดนคลื่นตีเขื่อนเกือบแตก ถึงกับอารมณ์หดลงไปเกือบครึ่ง

“สงสารหรอกนะ ถึงช่วย” แม้จะฟังเหมือนดูถูก แต่เสียงทุ้มแสนหวานที่กระซิบดังอยู่ข้างหู ทำให้ชาไม่รู้สึกดีอย่างที่ควร ซึ่งนั่นก็ถือว่าดี เพราะไม่อย่างนั้น ภูเขาไฟคงระเบิดไปแล้วแน่ๆ “อย่าลืมนะว่าถ้าทนไม่ได้จะเจออะไร”

“…คุณจะให้ผมตายหรือไงครับ…อึก…” ชาประท้วงได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องหยุดไปเพราะเจ้าคนขี้แกล้งรุกเข้าหาอย่างไม่ทันตั้งตัว “คุณ!…”

วินเพียงแต่ยิ้มให้อย่างไม่แยแส แล้วจัดการโดยไม่สนใจคำทักท้วงนั่น จนชาได้แต่เก็บคำพูดลงคอก่อนจะพยายามห้ามความต้องการของตัวเองสุดความสามารถ ซึ่งคำขู่ของวินก่อนหน้าก็ช่วยระงับอารมณ์ได้อย่างดี…ถ้าต้องเจอแบบนั้นไปสองอาทิตย์ เขาต้องแสลงใจตายก่อนแน่ ขนาดก่อนหน้าโดนแค่สองสามนาทียังสยองเกือบตายเลย

คนอายุน้อยกว่ามองอีกฝ่ายที่หน้าแดงก่ำ ท่าทางของชาทรมานเหมือนจะตายเสียให้ได้ และไม่ได้ใส่ใจจะมองตนเลย เพราะมัวแต่ไปพะวงกับเบื้องล่างที่ไม่ยอมฟังคำสั่งเจ้าของและพร้อมจะออกมาได้ทุกขณะ จนถึงกับต้องใช้มือบีบไว้เสียแน่น ชวนให้สงสารแต่ไม่รู้ทำไมวินกลับหุบยิ้มไม่ลง ยิ่งเห็นสายตาเจ็บแค้นเสียเต็มประดาที่แอบเหลือบมองตนเป็นระยะ กลับทำให้นึกเอ็นดูกว่าเดิมอีก

“อ๊ะ…” ชา เผลอร้องเมื่ออยู่ๆมีอีกมือมาร่วมจับเบื้องล่างของตนจนชายหนุ่มเผลอเงยหน้า มอง แต่เพียงไม่นานก็ต้องหนีกลับด้วยความเขินเพราะโดนสายตาคมจ้องซะเหมือนจะเอาให้ทะลุร่าง “คุณ…”

“พอได้แล้ว” เสียงทุ้มบอกอย่างแผ่วเบาและติดสั่น ใบหน้าชื้นเหงื่อของวินโน้มเข้ามาใกล้จนได้ยินเสียงหายใจอย่างชัดเจน “ฉันใกล้แล้ว…”

“ไม่นะครับ!”

เพียงแค่ดึงมือที่ขวางความสุขออก เขื่อนก็แตกทันที แต่วินก็ไม่ได้หยุดเพราะไม่อยากให้ไฟอารมณ์ของตัวเองดับมอดเอาดื้อๆ จึงใส่ต่ออย่างไม่สนใจเสียงร้องครวญครางเพื่อให้มันจบเสียก่อน

“อึก…” เสียงครางแผ่วลงเมื่ออีกฝ่ายหยุดเคลื่อนไหว ดวงตาเรียวที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำตามองคนตรงหน้าที่หอบหายใจรุนแรง แต่เพียงไม่นานก็หลบหนีเมื่อวินมองกลับมา

ทีแรกวินว่าจะแซวสักหน่อย แต่พอได้เห็นใบหน้ากลัวความผิดของชาที่ท่าทางจะกลัวจัดจนถึงกับสั่น วินก็เลือกที่จะหัวเราะออกมาแทน

“ถามจริง กลัวโดนโอ๋ขนาดนั้นเลยเหรอ…ไหนว่าต่อให้ฉันทำดีกับนายตลอดไปก็ยอมไง” เขาถามโดยที่ยังอยู่ในท่าเดิม ไม่คิดจะถอนตัวออกมาแต่อย่างใด ทั้งยังขยับเป็นพักๆเพื่อกระตุ้นอารมณ์และเร่งให้อีกฝ่ายตอบคำถามตน

ชาเพียงแต่บึ้งหน้าใส่อย่างคนจนหนทาง ยิ่งโดนลูบหัวเสียเบามืออีก ยิ่งทำให้อยากจะกัดลิ้นตัวเองตายไปให้รู้แล้วรู้รอดที่ดันเผลอพูดเรื่องบ้าๆพรรค์นั้นให้อีกฝ่ายได้ยิน

“รอบนี้ไม่นับ ไม่ต้องห่วง” เมื่อเห็นชาทำท่าจะร้องไห้วินก็ปลอบให้อีกฝ่ายใจเย็น…เพียงแต่ท่าทางจะอ่อนโยนไปนิด ถึงได้สั่นไม่เลิก เลยต้องใช้ไม้แข็งปลอบแทน…ซึ่งหยุดทันทีจนน่าโมโห

“มะ…ไม่นับ…จริงๆนะครับ…” หลังจากสะดุ้งที่โดนงับซอกคอเข้าเต็มเขี้ยว ชาก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่นเพราะยังไม่เชื่อใจเท่าใดนัก

“เออ ไม่นับ” วินแอบยิ้ม…ก็ใครใช้ให้น่าเอ็นดูเสียขนาดนี้กัน “เดี๋ยวเป็นอะไรไปฉันก็เหงามือแย่สิ ไม่มีใครเป็นกระสอบทรายรองมือรองเท้าฉันได้ดีเท่านายแล้ว”

และคนพูดก็ไม่แปลกใจสักนิดที่อีกฝ่ายดูจะปลื้มกับประโยคเมื่อครู่เสียเหลือเกิน

ใส่ความเห็น