จับตา 38

วัฒน์สะดุ้งนิดหน่อยตอนที่เห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มที่รออยู่บนรถ เขาไม่แน่ใจว่าตนควรจะรู้สึกผิดหรือเปล่าที่ปล่อยให้อีกฝ่ายรอเสียนาน แต่ก็พยายามทำเมินแล้วขึ้นรถไป

“ช้ามากเลยนะครับ ลาอะไรกันนานนักหนา ทำอย่างกับจะลี้ภัยไปต่างประเทศ ไม่ได้เจอกันเป็นปีๆอย่างนั้นล่ะ”

มันเริ่มก่อนนะ…

“ฉันก็รีบแล้วไง แค่นี้ทนเอาหน่อยไม่ได้หรือไง…แว้ก!! ทำบ้าอะไรของนายวะ!”

จะไม่ให้ร้องได้ไง ในเมื่ออยู่ๆอีกฝ่ายก็โน้มหน้าเข้ามาคล้ายกับจะจูบกันเสียตรงนี้เลย เท่านั้นยังไม่พอ มีการดึงมือไปจับของสงวนให้ชวนระทึกหนักอีก แถมที่น่าระทึกกว่าคือไอ้เบื้องล่างของมันดูจะกำลังประท้วงหาทางระบายอยู่นี่ล่ะ

และที่ไม่น่าให้อภัยก็คือ ตัวเองที่ดันตื่นเต้นจนเริ่มเกิดอารมณ์กับสถานการณ์แบบนี้นี่แหละ

“ก็ผมบอกแล้วไงว่าจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” เสียงทุ้มแหบเอ่ยกระซิบอยู่ข้างแก้ม เล่นเอาขนลุกไปทั้งตัว “ก็เพราะคุณช้านั่นล่ะ มันถึงได้เป็นแบบนี้”

“งะ….งั้นก็ทนเอาหน่อยสิวะ ด…เดี๋ยวฉันจะรีบขับกลับบ้านน่า…”

“ไม่เอา”

แกไม่เอา แล้วแกมายุ่งอะไรกับของฉันละหา

“เดี๋ยวสิ…ปะ…ปล่อยนะเฮ้ย!” วัฒน์ร้องเสียงสั่น ใจหนึ่งก็อยากจะห้ามเพราะไม่ต้องการทำอล่างฉ่างในที่สาธารณะ แต่อีกใจมันดันดื้อดึงอยากลิ้มลองสีสันของชีวิตที่ไม่เคยสัมผัส เล่นเอาไม่รู้จะดึงมืออีกฝ่ายออกดี หรือจะปล่อยตามใจแบบนั้น แต่อันที่จริง ต่อให้เลือกข้อแรกเขาก็ต้านแรงไอ้เด็กหื่นตรงหน้านี่ไม่อยู่หรอก “ถ้าไม่เอา แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงล่ะวะ”

“ก็ทำตรงนี้ไง”

“ไม่ว้อยยย” อยากลองยังไงตูก็ไม่เอาเด็ดขาดดดดดด

“ผมก็รู้ว่าคุณจะต้องพูดแบบนั้นอยู่แล้วไง ถึงต้องทำแบบนี้”

ยังไม่ทันจะได้ร้องตอบก็โดนอีกมือปิดปากไว้ ส่วนอีกมือที่เลื้อยอยู่แถวจุดอันตรายก็พยายามทลายปราการเข้าไปแบบไม่เกรงกลัว เท่านั้นยังไม่พอ เนยังโน้มหน้าเข้าหาส่วนอ่อนไหว และลงมือจัดการปลุกเร้าโดยไม่ยอมให้อีกฝ่ายตั้งรับทัน

“อื้อ!…อื้อ!!” หนุ่มใหญ่ดิ้นหนี แต่พื้นที่ก็แสนจะจำกัด แรงที่กดทับก็เยอะจนลำบากจะต้านไหว ข้างล่างก็ใส่อารมณ์เข้าหาอย่างกับคลื่นซัด จนเขาไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน

ปลายลิ้นอุ่นยกลากไล้ผ่านผิวเนื้อที่เริ่มร้อน ท่อนเนื้อตรงหน้ากระตุกไหวเป็นจังหวะทุกครั้งที่เขากระตุ้น มือหนากอบกำและขยับเร่งเร้าอย่างไม่หยุดพัก แต่กระนั้นเนก็ยังคอยระวัง ไม่ให้เตลิดไปตามใจตัวเอง เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่อาจได้ในสิ่งที่ตนต้องการ

“อึก…” วัฒน์ระบายลมหายใจออกมายกใหญ่ ทั้งที่สถานการณ์ในตอนนี้มันล่อแหลมว่าจะโดนใครเห็นมาก และเขาก็กลัวว่าใครจะมาเห็นแทบตายแท้ๆ แต่ไม่ว่าจะพยายามสะกดกลั้นอารมณ์แค่ไหน ไอ้ที่ไม่ควรจะลุก มันก็ลุกขึ้นเริงร่าท้าลมร้อนแบบไม่เกรงกลัวเลยสักนิด

นี่ตูเป็นอะไรของตูวะ!!! หรือติดใจในลีลาของไอ้เด็กบ้านี่จนไม่สนเวลาและสถานที่ไปแล้วหรือไงวะเนี่ยยยย

แม้จะรู้ว่าเสียเปล่า แต่ก็ยังคงดิ้นไม่หยุด แม้เรี่ยวแรงในตอนนี้ไม่เหลือไว้ให้ต่อต้านมากเท่าใดแล้วก็ตาม ความร้อนที่กอบกุมส่วนอ่อนไหวของตนทำหน้าที่ได้ดีเหลือร้าย แรงดูดดุนเป็นจังหวะทำเอาเขาเผลอกระตุกรับตามอย่างลืมตัว ทั้งที่ในหัวก็กลัวแทบตาย แต่จะให้หยุดกิจกรรมสวาทก็เสียดายเป็นที่สุด

“อึก” หนุ่มใหญ่กระตุกวาบเมื่อเนถอนตัวขึ้นมา ใบหน้าชื้นเหงื่อและเต็มไปด้วยความข้องใจหันมองคนนั่งข้าง ที่ยังคงมีสีหน้านิ่งเหมือนกับเรื่องที่ทำไปเมื่อครู่เป็นเรื่องสามัญธรรมดาก็ไม่ปาน

“คราวนี้ คุณเองก็คงขับรถไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้แล้วสินะครับ” เด็กหนุ่มยิ้มพราย “หรือถึงทำได้ ผมก็จะลงไปจัดการให้คุณเหยียบคันเร่งไม่ไหวอยู่ดี”

“แกจะทำแบบนี้ไปทำไมวะ ไหนบอกว่ารีบไง” เสียงทุ้มว้ากใส่อย่างสั่นระริก ส่วนหนึ่งหงุดหงิดที่โดนปล้ำในรถ อีกส่วนคือไม่พอใจที่โดนปลุกอารมณ์แล้วจากนั้นก็โดนปล่อยให้ค้างกลางอากาศ

ใบหน้าเรียวกลับมานิ่งอีกครั้ง ดวงตาสีน้ำตาลเลื่อนมองทางซ้ายทีขวาที ก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่ทำให้คนฟังเผลออ้าปากค้าง “ผมต้องการให้คุณทำกับผมอย่างที่ผมทำเมื่อกี้”

“หา” ที่จริงก็ฟังชัดทุกพยางค์ แต่ไม่อยากจะเชื่อหูก็เท่านั้น

“ก็ปกติเวลาผมทำกับผู้หญิง ผมก็เล่นทุกลีลาทุกท่าได้หมด เพราะฉะนั้น คุณที่บอกว่าจะช่วยระบายความใคร่ให้ผมก็ต้องทำให้ได้หมดด้วยสิครับ หรือไง แหย ไม่กล้าทำหรือครับ” เนรัวคำพูดใส่ไม่ยั้ง เพราะกลัวเหลือเกินว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าอันที่จริงตนอยากให้ลุงแกลองใช้ปากกับตนมาตั้งนานแล้ว

“อะ…แอะ..เออะ…ละ…แล้ว…แล้วทำไมต้องปากวะ มือก็ได้นี่นา” วัฒน์ละล่ำละลัก ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ในรถ ณ ลานจอดรถในผับ ซึ่งมีเพื่อนร่วมงานอยู่ในร้านกันตรึม และอาจจะเดินผ่านมาเห็นเมื่อไหร่ก็ได้ “ตะ…ตอนนี้ใช้มือปะ….ไปก่อนก็ได้นี่นา …ถ้า….ถ้าถึงบ้านนายอยากจะเล่นท่าไหนก็ค่อยว่ากันอีกทีสิ”

ประโยคหลังนั่นน่ะ ผมทำแน่นอนครับ แต่ไม่ตกลงข้อเสนอของคุณหรอก

“ก็ถ้ามันเลอะเสื้อผ้าตอนนี้คงไม่ดีใช่ไหมล่ะครับ ใช้ปากนั่นล่ะดีแล้ว ไม่เลอะแน่นอน” เนยังคงแถไม่เลิก และเริ่มออกอาการกระฟัดกระเฟียดกลบเกลื่อนและเพื่อเป็นการเร่งให้อีกฝ่ายยอมตกลงโดยง่าย “จะรีบกลับไม่ใช่หรือไงครับ ผมเองก็ไม่อยากจะให้ใครมาเห็นนักหรอก เร็วสิ! แล้วผมจะได้ช่วยคุณกลับ ไม่ต้องห่วงเรื่องโรคครับ ผมไปตรวจมาแล้ว และก่อนหน้าจะมาที่รถผมก็ไปทำความสะอาดแถมมาให้แล้วด้วย มีอะไรจะขัดอีกไหม”

“…แต่ฉันไม่ได้ทำ…”

“ไม่เป็นไร ผมไม่ถือ”

เมื่ออีกฝ่ายดึงดันไม่เลิก บวกกับได้ข้อเสนอชวนระทึก แม้จะกลัวโดนเห็น แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกมากเท่าไหร่นัก เลยทำตามอย่างเสียไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าเขาย่อมไม่ลืมที่จะออกอาการรังเกียจและไม่อยากทำเสียเต็มประดาออกมาแบบโจ่งแจ้ง ถ้าให้เลือกระหว่างโดนคนอื่นเห็นกิจกรรมเอาท์ดอร์ กับโดนเนล่วงรู้ความในใจ เขายอมทำโชว์ดีกว่า

เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อโดนไออุ่นจากมือที่เข้ามาอย่างกล้าๆกลัวๆ ความตื่นเต้นเล่นเอาเขาเกือบระงับอารมณ์ไม่อยู่ เนกลัวว่าถ้าเกิดเสร็จขึ้นมาเสียก่อน แล้วอีกฝ่ายจะอ้างไม่ยอมทำในสิ่งที่ตนต้องการ จึงได้แต่พยายามอดทนคิดเรื่องอื่นไปเรื่อย…อย่างน้อยสีหน้าไม่อยากทำของวัฒน์ก็ช่วยระงับอารมณ์เขาไปได้เยอะ ถึงแม้ก่อนหน้าจะพยายามนึกท่องสูตรคูณจนถึงแม่สิบห้าไปแล้วก็เถอะ

วัฒน์มองสิ่งมีชีวิตตรงหน้าที่กำลังยืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางลำตัวของเด็กหนุ่ม ถ้าเป็นเมื่อก่อนหน้าที่จะโดนอีกฝ่ายขืนใจ เขาต้องรู้สึกขยะแขยงเพียงแค่มองเป็นแน่แท้ เพราะงั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องใช้ปากหรอก มีหวังได้สำรอกของเก่าออกมาหมดลำไส้ใหญ่พอดี แต่ตอนนี้ ไอ้ความรู้สึกพวกนั้นดันระเหยไปไหนแล้วก็ไม่รู้ มีแต่ความรู้สึกแปลกๆที่ทำเอาใจสั่นระรัว จนตาพร่ามัวเพราะเลือดสูบฉีดแรงเกิน

แม้จะรู้สึกอายแทบตาย แต่หากยิ่งอ้อยอิ่ง ของตอบแทนก็จะช้าตาม อีกทั้งรังแต่จะหาเรื่องให้คนอื่นอาจเดินมาเห็นด้วย หนุ่มใหญ่เลยพยายามทำใจ แล้วตรงเข้าจัดการให้เสร็จๆอย่างที่อีกฝ่ายต้องการโดยเร็ว

เสียงหอบกระเส่าของเด็กหนุ่มดังขึ้นเป็นระยะ ความรู้สึกที่ได้รับมันเย้ายวนชวนเคลิ้มจนอยากหยุดอยู่เช่นนี้ให้เนิ่นนานเสียเหลือเกิน เนเลื่อนสายตามองลงเบื้องล่าง ศีรษะของอีกฝ่ายสั่นไหวไปตามแรงเคลื่อน แม้เขาจะไม่เห็นหน้าวัฒน์ก็จริง แต่พอจินตนาการถึงใบหน้าในยามนี้แล้ว…เขาล่ะอยากจิกหัวหนุ่มใหญ่ขึ้นมาขอดูให้ชัดๆจริงๆ…

…เฮ้ย คิดบ้าอะไรของตูวะ…ขืนทำแบบนั้น มีหวังไม่จบพอดี

“คุณวัฒน์…คุณวัฒน์…หยุดก่อน…” เมื่อรุนแรงไปอาจจะไม่ดี เขาเลยแค่เรียกและดึงไหล่อีกฝ่ายขึ้นมาแทน

“อะไร…” เจ้าของชื่อนิ่วหน้ามอง…จากนั้นก็นึกหวั่นว่าตนอาจจะทำเหมือนกระหายอยากได้มากไปหน่อย ถึงได้โดนเรียกให้หยุด

“…เปล่าครับ…ทำต่อเถอะ…ผมไม่ขัดแล้ว”

แม้จะยังงงๆแต่ก็ขี้เกียจจะเสียเวลาสงสัย เลยดำเนินการต่อไป โดยหารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายกำลังหน้าแดงเป็นมะเขือเทศไปเสียแล้ว

ทันทีที่เนถึงจุดหมาย วัฒน์ก็ผละขึ้นมา แล้วหันหน้าไปอีกทางด้วยอาการเหมือนคนจะเป็นลม ส่งผลให้เด็กหนุ่มตกใจและเป็นห่วง นึกว่าลุงแกจะหน้ามืดเพราะทำจนลืมหายใจ หรือไม่ก็สำลักน้ำจนเกือบขาดอากาศ

“แหวะ…ขมเป็นบ้า…”

ก่อนที่จะได้ถามเพราะเป็นห่วง เจอคำพูดของวัฒน์เข้าไปทีเดียวถึงกับผงะ ยิ่งเห็นสีหน้าเหมือนเพิ่งกินบอระเพ็ดเข้าไปแล้ว ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเสียความมั่นใจไปโข เท่านั้นยังไม่พอ มีดึงกระดาษทิชชู่หน้ารถออกมาเช็ดปากรัวๆอีกต่างหาก

“พูดอะไรของคุณน่ะ ตั้งแต่ผมทำมา ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนพูดแบบนี้เลยล่ะ ลิ้นคุณมันเสียหรือเปล่า” แม้จะเสียเซลฟ์เอาการแต่ก็ไม่คิดจะยอมรับง่ายๆเพราะไม่เคยเสียประวัติมาก่อน

“เสียหรือเปล่าฉันไม่รู้ รู้แต่รสชาติของนายมันโคตรบรรลัยเลย” คุณลุงพ่นคำด่าออกมาอย่างสุดจะทนและไม่คิดจะเห็นใจแต่อย่างใด “เจอแบบนี้บ่อยๆมีหวังประสาทรับรสฉันได้เสียเข้าสักวันแน่”

และไม่รู้เพราะหงุดหงิดที่โดนวิจารณ์แบบไม่ไว้หน้าหรือเปล่า ถึงได้กล้าทำเรื่องบ้าสุดโต่งขนาดนี้

วัฒน์ได้แต่ค้างเมื่ออยู่ๆก็โดนดึงเข้าไปจูบ เนื่องจากมันไม่ใช่จูบดูดดื่มอะไรนัก อีกทั้งยังเกิดขึ้นเร็วมาก หนุ่มใหญ่จึงได้แต่ค้างนิ่งยันจบรายการ

“…”

ทันทีที่ถอนลิ้นออกมา เนก็รีบหันหลังและออกอาการเหมือนวัฒน์ก่อนหน้านี้เด๊ะๆ และยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ย เด็กหนุ่มก็หันมาด้วยสีหน้าไม่ยอมแพ้

“เฮอะ ของแบบนี้มันก็รสชาติเหมือนๆกันนั่นล่ะ ของคุณล่ะ รสชาติดีนักหรือ ถึงได้มาว่าของผมเสียๆหายๆน่ะ”

“ฉันจะไปรู้เรอะ คนบ้าที่ไหนเขาจะเคยชิมของตัวเองกันเล่า!” หนุ่มใหญ่อยากจะสติแตกจริงๆ ไม่คิดว่าเพื่อนร่วมงานรุ่นลูกมันจะยกหัวข้อบ้าๆนี่มาเถียง อายก็อาย งงก็งง แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรถึงได้เถียงอีกฝ่ายด้วยเรื่องบ้าบอพรรค์นี้

“ได้ งั้นเดี๋ยวผมลองให้ ถ้าแย่ผมจะบรรยายให้ละเอียดเลย”

ฟังแล้วอยากจะห้าม แต่ถ้าไม่ได้ทำ ก็มีหวังได้ใจสั่นตลอดการเดินทางกลับบ้านเป็นแน่…โอ๊ย ตูจะบ้าตาย…

วัฒน์เพียงแต่ขืนหนีในทีแรก ในเมื่อหนีไม่ได้ และไม่ค่อยอยากจะหนี เลยได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ หวังจะให้มันจบให้เร็วที่สุด…

…ไอ้บ้าเอ๊ย ถ้าแกจะรุนแรงกับฉันขนาดนี้ สู้แกเอาฉันตอนนี้เลยดีมั้ยหา จะดูดแรงอะไรขนาดนี้วะ…โอ๊ย แล้วทำไมตูถึงต้องรู้สึกดีเป็นบ้าแบบนี้ด้วยวะเนี่ยยยย!!!!

วัฒน์หอบหายใจระรัวทันทีที่เสร็จกิจ หนุ่มใหญ่มองเจ้าเด็กบ้าที่ยังคงนิ่งค้างไม่เลิก ยังดีหน่อยที่ถอนปากออกไปแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รับประกันว่าไอ้หนูของตนที่เพิ่งนอนมันจะลุกขึ้นมาเรียกร้องอีก

“เรียบร้อยแล้วครับ รีบกลับเถอะ เสียเวลามามากแล้ว”

หนุ่มใหญ่ยังคงมองหน้าอีกฝ่าย ที่ทำเก๊กนิ่งเสียจนอยากจะตบกะโหลกมันสักที “ไหนนายว่าจะบ่นไง มีอะไรก็บ่นสิ จะได้เจ๊ากับที่ฉันว่าไปไง”

เนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปอีกทาง แล้วดึงกระดาษทิชชู่ออกมาหนึ่งผืน “ห่วยแตกพอกันนั่นล่ะ”

เขาก็ไม่ได้หวังว่าตนจะเลิศเลอขนาดนั้น ก็แค่อยากให้พูดๆ เรื่องจะได้จบๆ แล้วไม่ต้องขุดขึ้นมาแขวะกันอีก…โดยหารู้ไม่ว่าเนไม่ได้พูดความจริง

ทำไมหวานล่ะวะ

เขาก็พอเคยรู้ๆมาบ้างล่ะว่าปกติมันอาจจะมีรสหวาน แต่เห็นของตัวเองโดนว่าซะเสียหาย เลยคิดว่าอีกฝ่ายที่แก่กว่าตั้งเยอะ อะไรๆมันน่าจะรสชาติเฝื่อนกว่าตน แต่กลับตรงข้ามอย่างน่าหมั่นไส้…

….

……..แล้วเราจะไปติดใจรสชาติบ้าๆพรรค์นั้นทำไมกันวะ โอ๊ย อยากจะบ้าตาย!

ใส่ความเห็น